แชร์ประสบการณ์ เกี่ยวกับ วัฒนธรรมการทักทายของคนญี่ปุ่น

วัฒนธรรมการทักทายของคนญี่ปุ่น นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีวัฒนธรรมอื่น ๆ ในเรื่องของการสื่อสาร ประเพณี ศิลปะ และอาหาร ของคนญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนชาติอื่น ซึ่งล้วนแต่สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมและความเคารพที่คนญี่ปุ่นมีต่อกันในสังคม ดิฉันจึงอยากจะแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการทักทายของคนญี่ปุ่นมาฝากกันค่ะ

บอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น

ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ดิฉันชื่อ พอลลี่ ค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นนักแปลอิสระภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น มีสบการณ์ในการทำงานร่วมกับคนญี่ปุ่นและได้ใช้ชีวิตและศึกษาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นพอสมควร จึงอยากจะบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น เผื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะคะ ประเทศนี้เป็นประเทศที่ดิฉันใฝ่ฝันเหลือเกินที่จะต้องลองไปให้ได้สักครั้ง ด้วยความที่ประเทศนี้มีเรื่องราวที่เล่าสู่กันมาว่าเป็นประเทศที่รักชาติ และเป็นชาตินิยมสูง แต่คงไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ดิฉันเดินทางไป

วัฒนธรรมการทักทายของคนญี่ปุ่น

คำว่าชาตินิยม ที่ดิฉันประสบกับตัวเองมีตัวอย่างมากมายหลายอย่างเช่นที่ดิฉันขออนุญาตเล่าสู่กันฟังนะคะ คำว่าชาตินิยม มีความหมายว่า อุดมการณ์ในการสร้างและบำรุงรักษาชาติในลักษณะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคนที่รวมกลุ่มกันในทุก ๆ ด้าน

เรื่องที่ดิฉันสังเกตเห็นเริ่มจาก การทักทาย คนญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการทักทายที่ไม่เหมือนชาติอื่น เริ่มตั้งแต่การเจอกันที่เขาจะโค้งคำนับและแนะนำตัวเองแล้วพูดคำว่า "ฮาจิเมมาชิเตะ วาตาชิวะ ….(ชื่อ)…โตะ โมชิมัท" และแจกนามบัตรด้วยมือสองมือที่ยื่นนามบัตรออกไป พร้อมกับพูดอีกคำหนึ่งว่า "โยโรชิชุ โอเน็งไงชิมัท" แล้วก็พากันไปนั่งคุยสับเพเหระกันไป เมื่อคุยธุระกันเสร็จดิฉันสังเกตเห็นว่าเขามักจะพูดกันว่า หม่า , จร้า ……เสียงคำพูดเหล่านี้เหมือนกับเป็นสัญญาณว่าเราจะเลิกคุยกันแล้วนะ แล้วก็ค่อย ๆ หิ้วกระเป๋าลากันกลับไป ส่วนถ้าไม่ใช่การพบปะกันทางธุรกิจ ก็มักจะจบด้วยคำว่า จร้า….เน้, มาตะเน้…., มาตะ…..อาชิตะ และโบกมือลากัน น่ารักจริง ๆ มีแต่ความสุภาพเรียบร้อยและเต็มไปด้วยการผูกมิตร

ความใส่ใจและความมุ่งมั่นในการทำงาน

การทำงานของคนญี่ปุ่นมีแต่ความตั้งอกตั้งใจขยันหมั่นเพียร คิดจะทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ ดิฉันเคยมีประสบการณ์ทำงานที่บริษัทของญี่ปุ่นที่เป็นบริษัทซื้อมาขายไป ไม่มีส่วนของโรงงานการผลิตเขาทำการค้าขายกัน บริษัทญี่ปุ่นจำทำการค้าระหว่างบริษัทญี่ปุ่นด้วยกัน จะมีการไปเยี่ยมบริษัทลูกค้าเป็นประจำสม่ำเสมอ เมื่อสินค้ามีปัญหาเกิดชำรุดเสียหายจะพูดจาต่อรองกันดี ๆ และ ช่วยกันหาทางแก้ปัญหา แล้วต้องค้นหาสาเหตุว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สินค้าชำรุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก

การพบปะสังสรรค์หลังเลิกงาน

และอุปนิสัยอย่างหนึ่งของคนญี่ปุ่นที่ดิฉันเองก็คิดอยู่ว่ามันดีหรือไม่ดีก็คือ การพบปะสังสรรค์กันหลังเลิกงานแทบทุกวัน ถ้ามองในแง่ดีเป็นการสร้างความสัมพันธ์ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้การเจรจาต่อรองทางธุรกิจและด้านอื่น ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น แต่ดิฉันก็อดคิดไม่ได้ว่า พวกคนญี่ปุ่นเอาเวลาที่ไหนไปพักผ่อน เพราะการกินเหล้าการท่องเที่ยวตอนกลางคืนและเช้าต้องตื่นมาทำงานแต่เช้ามันน่าจะเหนื่อยมาก ๆ ซึ่งตอนเช้าวันรุ่งขึ้นคนญี่ปุ่นเขามาทำงานความด้วยความกระปรี้กระเปร่าและเต็มไปด้วยพลัง

การจัดโต๊ะทำงานในบริษัท

การจัดโต๊ะทำงานของบริษัทญี่ปุ่นก็เหมือนกัน เราสามารถเห็นหน้าพนักงานกันได้หมด จะมีการแบ่งเป็นการกลุ่ม ๆ ตามแต่ละแผนก โดยลดหลั่นตามความสำคัญ โต๊ะระดับผู้จัดการจะอยู่ด้านในและอยู่บนบริเวณส่วนหัวของกลุ่ม ส่วนโต๊ะของระดับสตาฟจะอยู่ต่อจากโต๊ะผู้จัดการโดยโต๊ะของสตาฟจะหันหน้าเข้าหากัน มักจะมีการจัดตำแหน่งที่นั่งเป็นไปดังที่เล่าให้ฟังเกือบทุกบริษัท ไม่เหมือนกับบริษัทข้ามชาติฝรั่งที่ใช้พาร์ทิชั่นกั้นเพื่อให้เกิดสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับพนักงาน

การเตรียมพร้อมก่อนทำงาน

มีอีกอย่างที่ดิฉันเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีคือ การเตรียมความพร้อมก่อนการทำงาน ในโรงงานของบริษัทญี่ปุ่น ตอนเช้าก่อนเข้างานทุกวันจะมีการออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นหรือเป็นการเตือนพนักงานว่า "ถึงเวลาการทำงานแล้วนะ"

เรื่องความเป็นชาตินิยมของคนญี่ปุ่นและวัฒธรรมรวมทั้งภาพวิวทิวทัศน์ของประเทศญี่ปุ่นยังมีอีกมากแต่ดิฉันจะขอเล่าต่อในโอกาสต่อไปค่ะ ยังมีเรื่องที่น่าสนใจอีกมากที่ให้ทุกท่านติดตามดูกัน คงได้มีการอมยิ้ม แอบหัวเราะ และเสียน้ำตากันต่อไปในโอกาสหน้านี้

สรุป

จากประสบการณ์ที่ได้สัมผัส วัฒนธรรมการทักทายของคนญี่ปุ่น และความเป็นชาตินิยมของคนญี่ปุ่น ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ เช่น การทำงานอย่างมีความตั้งใจ การสร้างความสัมพันธ์หลังเลิกงานและการเตรียมความพร้อมก่อนทำงานโดยทั้งหมดนี้ได้แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมที่คนญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญและปฏิบัติติกันมาอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นความโด่นเด่นและสร้างความประทับใจต่อคนที่พบเจอ โดยเฉพาะในสายตาของชาวต่างชาติและตัวดิฉันเองก็เช่นกันค่ะ

สั่งประเมินราคางานแปล ฟรี!

อัปโหลดเนื้อหา ● เลือกภาษาและบริการ ● กำหนดระยะเวลา ● รายละเอียดงานแปล ● เสร็จสิ้น

  1. อัปโหลดเนื้อหา
  2. เลือกภาษาและบริการ
  3. เลือกตัวเลือกการแปล
  4. เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติม
  5. เสร็จสิ้น
อัปโหลดต้นฉบับ
อัปโหลดไฟล์ หรือพิมพ์ข้อความที่ต้องการแปลในระบบสั่งงาน
เลือกไฟล์งานที่ต้องการแปลภาษา รองรับไฟล์ทุกประเภท สามารถอัปโหลดได้มากกว่าหนึ่งไฟล์
อัปโหลดไฟล์ต้นฉบับ
การอัปโหลดไฟล์ หรือ แปลข้อความสั้น สามารถเลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
อัปโหลดไฟล์เพิ่มเติม
คุณสามารถพิมพ์ข้อความที่ต้องการแปล หรือทําการคัดลอกจากช่องทางอื่นๆ
ขั้นตอน 1 จาก 4
เลือกบริการและภาษา
เลือกประเภทบริการ ภาษาต้นทางและภาษาปลายทาง
บริการ *
ภาษาต้นทาง *
ภาษาปลายทาง*
ขั้นตอน 2 จาก 4
กำหนดระยะเวลา
ระยะเวลาในการเปิดเสนอราคาและระยะเวลาที่ต้องการงานแปล
ระยะเวลาเปิดเสนอราคา *
คุณต้องการงานแปลภายในกี่วัน
หลังยืนยันการชําระค่าบริการ

ขั้นตอน 3 จาก 4
ความต้องการเพิ่มเติม
แจ้งรายละเอียดหรือความต้องการอื่น ๆ เพิ่มเติมให้นักแปลทราบ
แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม
ขั้นตอน 4 จาก 4
กำลังดำเนินการ